ประเภทของขนมปังแบบต่าง ๆ ที่คุณยังไม่เคยรู้มาก่อน
ประเภทของขนมปังแบบต่าง ๆ ที่คุณยังไม่เคยรู้มาก่อน
ขนมปัง
ถือเป็นอาหารที่เป็นที่นิยมที่สุดทั่วโลก ขนมปังทำจากแป้งสาลีที่ผสมกับน้ำและยีสต์หรือผงฟู และส่วนผสมอื่น ๆ เพื่อแต่งสี รสชาติและกลิ่นมาตีให้เข้ากันและนำไปอบ
กว่าจะมาเป็นปัง
ขนมปังมีหลายประเภทและมีที่มาต่างกัน ขนมปังเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 30,000 ปีที่แล้ว จุดเริ่มต้นบ้างก็ว่าเกิดจากชาวเมโสโปเตเมียและอียิปต์ที่ค้นพบวิธีบดข้าวสาลีและเอาไปตำ ผสมน้ำและทำให้สุกเพื่อกินและเก็บไว้เป็นอาหาร นอกจากนี้ยังมีหลักฐานอย่างจิตกรรมฝาผนังในสุสานหลาย ๆ แห่งที่มีภาพวาดรูปคนถือขนมปังบูชาเทพพระเจ้า ขนมปังโบราณแบบนี้เรียกว่า "Flatbread" เนื่องจากไม่มีส่วนผสมของหัวเชื้ออย่างผงฟูหรือยีสต์ที่ทำให้ขนมปังขึ้นฟู มีสีเข้มและไม่ได้ย่อยง่ายแบบขนมปังยุคปัจจุบัน
ส่วนผสมสำคัญของขนมปัง
การริเริ่มทำขนมปังเกิดขึ้นเมื่อหลายหมื่นกว่าปีที่แล้วเพื่อความอยู่รอด การอบขนมปังเกิดขึ้นทั่วทุกแห่งคนตั้งแต่บริเวณลุ่มแม่น้ำไนล์ในอียิปต์จนไปถึงยุโรป นักโบราณคดีค้นพบหลักฐานว่า ชาวอียิปต์เริ่มใส่หัวเชื้อลงในขนมปังเมื่อประมาณ 4,000 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งทำให้ขนมปังขึ้นฟูและเก็บไว้ได้นานขึ้น และภายในเวลาต่อมา แต่ละประเทศก็สร้างวัฒนธรรมการทำขนมปังที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งโดยทั่วไปแล้วขนมปังจะมีส่วนผสมหลักๆ ดังนี้
1. แป้งสาลี
ผลิตจากข้าวสาลีที่ผ่านกรรมวิธีผลิตให้กลายเป็นผงแป้ง มีหลายประเภทตามปริมาณของโปรตีนที่ชื่อ “กลูเตน” ในแป้งสาลี ยิ่งแป้งที่มีกลูเตนสูงก็ยิ่งมีความยืดหยุ่นมาก ไม่เละง่ายและเนื้อสัมผัสหนัก การทำเบเกอรีแต่ละชนิดจึงต้องเลือกใช้แป้งที่แตกต่างกัน
2. น้ำเปล่า
หัวเชื้อ คือส่วนผสมสำคัญที่ให้ขนมปังพองฟู ขนมปังที่ไม่มีหัวเชื้อเรียกกันว่า Flatbread ซึ่งใกล้เคียงกับขนมปังในยุคโบราณ คล้ายกับแป้ง “พิต้า” ของชาวตะวันออกกลาง “นาน” ของชาวอินเดีย และ แป้ง “ตอร์ติญ่า” ของชาวอินเดียนแดง
3. ยีสต์
คือหัวเชื้อทำขนมปังที่เป็นที่รู้จักกันดีที่สุด โดยยีสต์จะกินน้ำตาลที่อยู่ในแป้งและผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา ทำให้ขนมปังมีรูปร่างเป็นก้อน ยีสต์ที่ใช้ในการทำขนมปังมีหลายรูปแบบ ทั้งแบบสดและแบบผง หรือบางครั้งก็ใช้ผงฟู ซึ่งถูกใช้ในการทำขนมปังเพื่อแทนการใช้ยีสต์ เมื่อผงฟูผสมกับน้ำก็จะเกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เช่นเดียวกับที่ยีสต์ทำ แต่การฟูของขนมปังจะหยาบกว่า
นอกจากส่วนผสมหลักเหล่านี้แล้ว ขนมปังแต่ละประเภทก็ใส่ส่วนผสมอื่น ๆ ผสมเข้าไปเช่น เกลือ, ไข่, นม, น้ำตาล, ครีม, ผลไม้อบแห้ง, เครื่องเทศ, ถั่ว, ธัญพืช และอื่น ๆ
วิธีการอบขนมปังพื้นฐาน
วิธีการอบขนมปังแต่ละประเภทจะแตกต่างกันออกไป โดยมีขั้นตอนพื้นฐานดังนี้
1. ผสมแป้ง: ผสมแป้งทั้งหมดให้เข้ากันทั้งส่วนของแห้ง แป้ง นมผง และส่วนผสมอื่น ๆ เข้าด้วยกัน ตามด้วยของเหลวอย่างน้ำ ไข่ไก่ ฯลฯ แล้วนวดเข้าด้วยกันให้เป็นก้อนแป้งที่ไม่เหนียวติดมือ
2. หมักแป้งหลังจากการผสม: หลังจากผสมแล้วควรพักแป้งซักระยะในอุณหภูมิห้องเพื่อให้แป้งขยายตัว โดยคลึงเป็นก้อนกลมและหมักในอ่างผสมหรือพักบนโต๊ะแล้วใช้ผ้าขาวบางชุบน้ำคลุมไว้ไม่ให้แป้งแห้ง
3. ไล่อากาศในก้อนแป้ง: ไล่อากาศออกโดยใช้มือกดหรือใช้เครื่องรีด และทำให้อุณหภูมิของแป้งเท่ากันทั้งก้อน
4. เตรียมก้อนแป้งใส่พิมพ์: ตัดก้อนแป้งออกเป็นขนาดตามต้องการ ใช้มือหรือเครื่องคลึงจนได้ไซส์ที่พอเหมาะแล้วนำใส่พิมพ์ หรือพักให้ขึ้นเป็น 2 เท่าและใส่ไส้ตามชอบ
5. พักแป้งในพิมพ์: หมักแป้งในพิมพ์ไว้ให้ได้ที่ ระยะเวลาขึ้นอยู่กับขนาดของก้อนแป้ง โดยทั่วไปแล้วใช้อุณหภูมิประมาณ 32-40 องศาเซลเซียสเพื่อให้ก้อนแป้งพองตัวอย่างรวดเร็ว
6. อบ: นำแป้งไปอบในเตาให้ขึ้นฟู จากนั้นนำขมนปังมาพักบนตะแกรงให้เย็น
ไม่มีความคิดเห็น